เหล่าโปรแกรมเมอร์ โดยเฉพาะเว็บโปรแกรมเมอร์หลาย ๆ คนคงจะเคยเจอปัญหาเหมือนผม เมื่อกำลังทำเว็บแอพพลิเคชั่นขึ้นมาสักเว็บหนึ่ง จะทำยังงัยถึงจะดูผลลัพท์ของโปรแกรมได้? ครั้นจะเช่า Host เพื่อเทสต์โปรแกรมเลย ก็กระไรอยู่ (ตังค์ก็ยังไม่ได้ แล้วจะเอาที่ไหนไปเช่าล่ะ) บางครั้งทดสอบบน Server จริง ก็ช้าแสนทรมาน เกิดวันไหนฝนตกขึ้นมา เน็ตที่บ้านก็งอแงขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาณเตือน หรือปัญหาอีกสารพัด สารพันที่จะเจอตามมาอีกนับไม่ถ้วน
เอ๊า!! ปัญหาเยอะอย่างนี้ แล้วบรรดาเว็บโปรแกรมเมอร์เค้าแก้กันยังงัยฟระ? ไม่ยากเลยครับ เค้าก็จำลองเครื่องตัวเองนั่นแหละเป็น Web Server ขึ้นมา บ้างใช้ IIS บ้างใช้ Apache หรือบางคนขี้เกียจหน่อย (ผมก็อยู่ในจำพวกนี้แหละ) ก็เอาชุดโปรแกรมที่มีออฟชั่นครบ แบบไม่ต้องสรรหา ส่วนเติมเต็มให้มันอีก เช่น Appserv, WMServer
แต่วันนี้ผมขอพูดถึงแค่ AppServ!! ทำไมน่ะหรือ (มีคนสงสัย) ก็ผมใช้ตัวนี้เป็นตัวเดียวนี่!!
Appserv เป็นโปรแกรมชุดที่รวบรวม Open Source เข้าไว้ด้วยกัน โดยมี Package หลัก ๆ คือ Apache, MySQL, PHP, phpMyAdmin ซึ่งใช้บนระบบปฏิบัติการวินโดส์ พัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์เมืองไทยเรานี่เองครับ คุณ ภาณุพงศ์ ปัญญาดี เจ้าของเว็บไซต์ www.appservnetwork.com (ขอคารวะท่านไว้ ณ ที่นี้)
AppServ นี้เหมาะสำหรับใช้จำลองเครื่องเราเป็น Web Server เท่านั้นครับ ใครอย่าได้คิดเอาไปใช้กับ Server ที่ให้บริการจริงเชียว (ผมเคยมาแล้ว โดนสวดยับ) แต่ไม่ใช่โปรแกรมตัวนี้ไม่ ดีนะ ของเค้าดีจริง ๆ ผมคอนเฟิร์ม แต่ที่ไม่เหมาะที่จะไปใช้งานจริง เนื่องจากทางผู้พัฒนาเค้าได้ตัดส่วนเสริมที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้กินโหลดเครื่องของเราน้อยที่สุดงัย
เห้ย!! นอกเรื่องยาวเกือบครึ่งหน้าไปดูวิธีติดตั้งกันดีกว่าครับก่อนอื่นก็ดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ www.appservnetwork.com มาก่อน ใครที่ใคร่จะใช้เวอร์ชั่นไหน ก็ตามสะดวกครับ
- เสร็จแล้วเราจะได้ไฟล์ชื่อว่า appserv-win32-x.x.x.exe ทีนี้ก็จิ้มเมาส์ ไปที่ไฟล์นั้น 2 ที ก็จะขึ้นหน้าจอแบบนี้
- หลังจากกด Next ก็จะขึ้นหน้าจอให้อ่านเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ (ซึ่งผมไม่เคยอ่าน เห็นแค่คำว่า GNU ก็รู้แล้วว่าฟรี)
- กด Next อีก จะให้เลือก Directory ปลายทางที่จะติดตั้ง ซึ่งโปรแกรมจะเลือกไว้ให้ที่ C:AppServ (ผมแนะนำให้กด Next ไปเลย ไม่ต้องแก้หรอก)
- เลือก โปรแกรมที่จะติดตั้ง ซึ่งค่าเริ่มต้นที่ให้มาจะเลือกให้ทั้งหมด ยกเว้นแต่ว่าต้องการเลือกลงเฉพาะที่ต้องการใช้จริง ๆ ก็สามารถเลือกได้ว่า จะติดตั้งหรือไม่ติดตั้ง โดยรายละเอียด Package มีดังนี้
Apache HTTP Server ที่ทำหน้าที่เป็น Web Server
MySQL Database ทำหน้าที่เป็น Database Server
PHP Hypertext Preprocessor ทำหน้าที่ประมวลผลการทำงานของPHP
phpMyAdmin ใช้ในการบริหารจัดการฐานข้อมูล MySQL ผ่านเว็บไซต์ - ถัดมาจะเป็นการกำหนดค่าคอนฟิกของ Apache Web Server ให้ใส่ข้อมูลในแต่ละช่องดังนี้
Server Name ใส่เป็น localhost
Administrator E-Mail Address อันนี้ให้ใส่อีเมล์ของเราเองครับ อย่าเอาของผมไปใส่ล่ะ
Apache HTTP Port ให้ใส่เป็นค่าที่ให้มาคือ 80
(ถ้าใส่เป็นตัวเลขอื่น เช่น 81 เวลาเปิดใช้งานต้องใส่หมายเลข Port กำกับด้วย เช่น http://localhost:81) - Config MySQL Database Server
Root Password กำหนดรหัสผ่านที่จะใช้สำหรับติดต่อกับฐานข้อมูล (User ที่โปรแกรมกำหนดให้ คือ root) เสร็จแล้วยืนยันรหัสผ่าน อีกครั้งในช่องด้านล่าง
Character Sets เป็นการเข้ารหัสภาษาในฐานข้อมูล ผมแนะนำให้เลือกเป็น UTF-8
ส่วนที่เหลือให้เลือกไว้ตามที่โปรแกรมเลือกไว้ให้จะเป็นการดีที่สุด
- สิ้นสุดการติดตั้ง ให้ติ๊กถูกไว้ที่ช่อง Start Apache, Start MySQL
- ทดสอบใช้งานโดยการเปิด Browser ในช่อง Address ให้พิมพ์ http://localhost
- ทดสอบดูว่า php ใช้งานได้หรือไม่ ให้พิมพ์ http://localhost/phpinfo.php ถ้าขึ้นหน้าจอแบบข้างล่างนี้ถือว่าผ่าน
จบครับ