Marketing to mobile

แนวโน้มของ Andriod หลัง Android Market คุมเข้ม App ติดมัลแวร์

 

ในตอนนี้บรรดาโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่างขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดไม่ว่าค่ายไหนๆ ก็ต่างที่จะงัดไม้เด็ดที่จะตอบโจทย์ สามารถครองใจผู้บริโภคไปได้  และหัวใจหลักของการเป็นสมาร์ทโฟนนั่นก็คือระบบปฏิบัติการที่ดี นั่นก็หมายความว่า ระบบปฏิบัติการ (OS) ในสมาร์ทโฟนนั้นจะต้องสามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของอุปกรณ์ให้ผู้บริโภคได้เห็นและใช้งาน  ซึ่ง Google Android เป็นระบบปฏิบัติการตัวแรกที่ฟรี เปิดเผยโค้ด ปรับแต่งได้ทุกอย่าง หรือเรียกว่า Free Software/Open-Source ก็ได้   ตอนนี้คู่แข่งของระบบปฏิบัติการ Android มีทั้ง iOS จาก Apple , Windows Phone7 จาก Microsoft และ BlackBerry OS จาก RIM อาจจะมีระบบอื่นๆนอกเหนือจากนี้อีกแต่ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเพียงเท่านี้ก่อน แต่ทางผู้เขียนเองไม่ได้มีประสบการณ์ใช้งาน Android อย่างเต็มที่เท่าใดนัก แต่ก็ได้ติดตามข่าวสารของสมาร์ทโฟนมาตลอด

แนวโน้มของ Andriod หลัง Android Market คุมเข้ม App ติดมัลแวร์

 

เนื้อหาต่อจากนี้ หากแสดงความคิดเห็นผิดไปจากข้อเท็จจริงประการใดไปต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ

ความสำคัญของ App บนสมาร์ทโฟน

ความสำคัญของ App บนสมาร์ทโฟน

ทุกๆ OS ย่อมมีจุดดี จุดด้อยแตกต่างกันไป  และก็ไม่ได้เสมอไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน  อย่าง Android เปิดตัวมาใหม่ๆ ช่วงปลายปี 2550 ก็ไม่ได้รับกระแสตอบรับไม่ดีเท่าในปัจจุบันที่มองไปทางไหนก็เจอ Android และเมื่อพูดถึง BlackBerry นั้นมีการตีตลาดเป็นที่นิยมก่อนหน้า Android จะเกิดเสียอีก ซึ่งเน้นการใช้งานรับส่งอีเมล์ Social Network และติดต่อสื่อสารเป็นหลักผ่าน Instant Message ในประเทศไทยเองก็เพิ่งเข้ามาได้ประมาณ 3-4 ปี และทำตลาดได้ดีซะด้วย  เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบัน RIM เจ้าของ BlackBerry ก็เริ่มมียอดขายฝืดลง ด้วยอัตราการโตของ iPhone และ Android ที่พัฒนามาเรื่อยๆจนสองค่ายนี้มีจำนวนผู้ใช้แซงหน้า BlackBerry ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของอเมริกาเลยทีเดียว หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ RIM เสียเปรียบสองค่ายนี้อาจเป็นเพราะ App ที่มีจำนวนน้อยมาก เทียบกันไม่ติดฝุ่นเลยสำหรับ App ของ iOS และ Android เพราะ BlackBerry เสมือนเป็นมือถือที่ใช้ในธุรกิจเป็นหลักมากกว่าที่จะมี App ไว้เล่นแก้เหงาเหมือนสมาร์ทโฟนตัวอื่น และถ้าเล็งถึงความสำคัญของ App แล้วเหตุที่ BlackBerry โดนเบียดจนร่วงลงไปก็คงเป็นเพราะ App และ OS ไม่ตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้เต็มที่ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ย่อมต้องการให้สมาร์ทโฟนของตนนั้นทำอะไรได้มากกว่าแค่ติดต่อสื่อสารกันอยู่แล้ว

ความแตกต่างของร้านค้า หรือ App Store

ความแตกต่างของร้านค้า หรือ App Store

แน่นอนว่า Apple iPhone เป็นสมาร์ทโฟนมากความสามารถ การที่จะแสดงความสามารถต่างๆ ก็ต้องใช้ App เชื่อมปฏิสัมพันธ์กันกับผู้ใช้ โดยก็ได้จัดตั้ง App Store ที่เป็นเหมือนร้านค้าใหญ่จำหน่ายเฉพาะ App ของ iOS เอง (BlackBerry ก็จัดตั้งช่องทางนี้เหมือนกันเรียกว่า App World แต่ App ก็มีจำนวนน้อยไปหน่อย) ความสำคัญทางด้านนี้ทำให้ Google ไม่ลืมที่จะก้าวรอยเท้าตาม Apple โดยได้จัดทำช่องทางที่จะวางขาย App บ้างเหมือนกันใช้ชื่อว่า Android Market ซึ่งเป็นที่รวมหลากหลาย App ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพียงแต่มันไม่ได้เป็นแบบ App Store ของ Apple ซะทีเดียว!!

ความแตกต่างของร้านค้า หรือ App Store

App Store จาก Apple นั้นเข้มงวดมากเรื่องการตรวจสอบ App ว่าพัฒนามาจากที่ไหน อย่างไร ผ่านเครื่องมือพัฒนาไหนมา แล้วหัก % ตามจำนวนผู้ที่จ่ายเงินซื้อ App ให้แก่ผู้พัฒนาไป  ตามกลไกของ Apple เอง  เรียกได้ว่ากว่าจะมีซัก App ไปโผล่ที่ App Store นั้นไม่หมูเลยทีเดียว (จุดนี้เองทำให้หลายๆบริษัทชื่อดังไม่พอใจ และเลิกล้มการพัฒนาให้ iOS ไปเช่น Mozilla Firefox ที่ต้องล้มเลิกเพราะสารพัดกฏเหล็ก) แต่ Google ไม่ใช่แบบที่ Apple เป็น!  Google เองมีคอนเซ็ปต์มาตั้งแต่แรกคือ Free Software-Open Source นั่นก็ทำให้ Google เองเปิดเสรีแก่ผู้ที่พัฒนา App ลงบนระบบปฏิบัติการ Android โดยใครก็ได้มีสิทธิสร้างและพัฒนา App ลงสู่ Android Market โดยจุดนี้เองที่ผู้เขียนอยากจะเน้นว่า Android ไม่เหมือนกับ iOS ของ Apple

ความแตกต่างของร้านค้า หรือ App Store

โดย Paotoong_PN
เรียบเรียงใหม่จากเว็บไซต์ i3 Technology

 

Asst. Prof. Banyapon Poolsawas

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบเชิงโต้ตอบ และการพัฒนาเกม วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท Daydev Co., Ltd, (เดย์เดฟ จำกัด)

Related Articles

Leave a Reply

Back to top button

Adblock Detected

เราตรวจพบว่าคุณใช้ Adblock บนบราวเซอร์ของคุณ,กรุณาปิดระบบ Adblock ก่อนเข้าอ่าน Content ของเรานะครับ, ถือว่าช่วยเหลือกัน