Social for Business

ก็มันเรื่องของอินเตอร์เน็ทในปี 2010

Internet Trends 2010

เป็นเรื่องปรกติที่นวัฒกรรมก้าวล้ำจะพาโลกยุคไอทีขับเคลื่อนตัวเองผ่านสถานการณ์หลากหลายทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง แม้ว่าในโลกจริงนั้นเทรนด์ของแฟชั่นได้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน การแต่งกายจะซับซ้อนหรือแปลกตาเพียงใด โลกไอทีหรือเว็บไซต์ในโลกอินเตอร์เน็ทประกอบกับพฤติกรรมผู้ใช้งาน ที่เราเรียกว่า เทรนด์เหมือนกันนั้น ก็ได้เปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนเช่นกันมาดูกันว่าในปี 2010 เว็บไซต์แบบไหนมาแรงยังไงเพราะอะไรกันดีกว่า

 

การบอกตำแหน่ง LBS (Location Based Service) ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป

ในส่วนนี้ยังคงอยู่กับสมาร์ทโฟน หากสาวกของ Blackberry และ UberTwitter แอพพลิเคชั่นที่สามารถแสดงข้อมูลของ Twitter Timeline ของเราประหนึ่ง API ในเครื่อง Blackberry นั้นเวลาที่เราทำการ ทวิต(Tweet) ข้อความลงใน Twitter จะมีช่องให้เลือก Location เพื่อแสดงสถานที่หรือตำแหน่งที่คุณอยู่ในบริเวณนั้นเป้นฟังกืชั่นการบอกตำแหน่งและใช้ได้ดี ซึ่งเทรนด์ของเว็บไวต์ในปี 2010 นั้นมองเห็นข้อดีของการบอกตำแหน่ง LBS ผ่าน GPS พัฒนาเป็นบริการมาตรฐานเช่น Foursquare (http://www.foursquare.com), Gowalla, Google Latitude (Blackberry, iPhone, Smart phone)

Location Based Service

ซึ่งมองถึงเจ้าตัวแรกอย่าง Foursquare นั้นในช่วงนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้ Social Network และ follower ของ Twitter ซึ่งดาราหรือเหล่าคนดังที่ใช้บริการนี้นั้นเป็นผลดีต่อค่ายเพลงหรือบริษัทที่เซ็นสัญญา สามารถคิดโปรโมชั่น ตามพิกัดของคนดังได้หากหลายแคมเปญ

เมื่อเว็บไซต์แบบ Real Time พยายามปรากฏตัวอย่างมากมายในทุกที่

เทรนด์เว็บไซต์แบบเรียลไทม์นั้นได้รับอิทธิพลจาก Twitter, Facebook และ FriendFeed โดยลักษณะนี้เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมาซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทำให้คนติดต่อสื่อสารกันพูดคุยใกล้ชิดกันตามติดพฤติกรรมกันมากขึ้น และหากว่าเป็นแบบ เรียลไทม์ (Real time) ด้วยแล้วจะสร้างความหรรษาสนุกสนานให้แก่ กลุ่มเพื่อนและดึงดูดความสนใจให้แก่ คนที่อยากลองอะไรแปลกใหม่ ซึ่งพอข้ามปี 2010 มาแล้วเจ้าเว็บไซต์แบบเรียลไทม์นั้นกลายเป็นไลฟ์สไตล์ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนทำงานไปแล้ว พูดถึงเจ้า Google Wave เป็นบริการเว็บไซต์ที่รวบรวม อีเมล์ แชท และ วิกิ เข้ามาอยู่ในบริการเดียวที่เรียกว่า Wave เป็นบริการที่แปลกใหม่เพราะเป็นอะไรที่เรียลไทม์แบบชัดเจนทันทีทันใด แต่ก็สร้างความสับสนในการใช้งานให้แก่ผู้ใช้ใหม่อยู่ไม่น้อย

Google Wave

เทรนด์เรียลไทม์เว็บไซต์ อาจไม่ได้แค่เว็บที่เลียนแบบ Twitter และ Facebook เท่านั้นที่อยู่คงทนบนตลาด PC ซึ่งทางส่วนของ สมาร์ทโฟน (Smartphone) นั้นก็ถือว่าเป็นบริการเว็บบนมือถือและแอพพลิเคชั่นที่ เรียลไทม์ชัดเจนเช่นกัน เช่นการค้นหา Google Apps บน mobile นั้นจะได้ Result สถานที่หรือ หมายเลขติดต่อไปจนถึงข้อมูลที่คุณต้องการอย่างรวดเร็วในตัวแอพพลิเคชั่นของ Black Berry ในส่วนของ Google Search นั้นคุณสามารถใช้เสียง Voice Recognize ในการค้นหาได้เพียงเปิดไมค์และกดค้นหาคือว่าเป็นบริการเรียลไทม์ที่ชัดเจนอย่างหนึ่งทีเดียว ในเรื่องของบริการเพลงเช่นกัน ต่อไปนี้ในการค้นหาเพลงที่คุณชชอบหรืออยากดาวน์โหลดลงในโทรศัพท์ แต่คุณจำชื่อเพลงไม่ได้ จำได้แค่บางท่อนคุณสามารถใช้บริการ Midomi เพื่อร้องเพลงที่อยากรู้ท่อนฮุคหรือ ท่อนไหนก็ได้ผ่านสมาร์ทโฟน ผลการค้นหาก็สามารถแสดงชื่อเพลงได้ทันที

การตามเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ชอบไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

ในโลกอินเตอร์เน็ทมีเว็บไซต์ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดและเชื่อมต่อกระจายราวกับโรคระบาด เนื้อหามากมายล้วนเป็น Information ทั้งหมดต่อให้คุณมีเวลาสองหมื่นกว่าวันทั้งชีวิตของคุณก็ไม่สามารถที่จะอ่านได้หมด สำหรับผู้ที่อยากติดตามในเนื้อหาที่ตัวเองชอบ เช่น การลงทุน ก้ต้องหาในหมวดหมู่ของการลงทุน หรือ ข่าวสาร ซึ่งในส่วนเหล่านี้ ไม่รวม Social Network ของสำนักข่าวทั้งหลายแล้ว Feed Rss, Atom และ Google News ช่วยได้ และในยุคของการจัดการเนื้อหาที่คุณชอบเองมาไว้เป้นสารบัญส่วนตัว Social Bookmark ต่างๆอย่าง Facebook share, connection หรือ เว็บไซต์จำพวก Digg นั้นช่วยคุณได้เพราะการที่คุณจะ BookMark เว็บและกรองเนื้อาแต่ละเนื้อหานั้นคุณจะมีเงื่อนไขกับตัวเองอยู๋แล้ว กลับกันหากกลับมาพูดถึงช่องทางที่ผู้ให้บริการเนื้อหาหรือข่าวสารแก่ผู้รับข่าวสารนั้น Social Network เป็นอีกวิธี โดยเฉพาะวงการนักข่าว ซึ่งปัจจุบันนักข่าวหลายสำนักได้ใช้ช่องทางการกระจายข่าวผ่าน Twitter ทำให้เกิดการติดตามข่าวสารที่รวดเร็วและทันเวลามากขึ้น เพิ่มทางเลือกของเนื้อหาได้หลากหลายสำหรับเหล่าผู้เสพสื่อที่ เราทุกคนล้วนเป็นคนไข้กลุ่มนี้

Cloud Computing ล่ะ?

เทคโนโลยีกลุ่มเมฆ หรือ Cloud Computing นั้นเช่นกันแนวคิดที่มีมาเกือบ 30 ปีอย่าง Grid Computer หรือ Cluster Computer นั้นพัฒนาและได้รับความนิยมมากขึ้นและมากที่สุดเมื่อปี 2009 ในรูปแบบ Cloud Service เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องประมวลผลทำงานหนักเพียงเครื่องเดียว แต่เป็นการกระจายโปรแกรมที่ต้องการประมวลผล หลายๆโปรแกรมกระจายไปตามที่ต่าง หรือเครื่องลูกในเครือข่าย ในสัดส่วนที่เท่าเทียมกันเรียกว่ากลุ่มเมฆ และ ยังแชร์ข้อมูลการทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ต้องสงสัยหรือใส่ใจเลยว่ามันอยู่ที่ไหน แค่ประมวลผลและตามติดผลลัพท์มันได้ก็เพียงพอ

ในไตรมาสแรกของปี 2010 นี้เราจะเห็นเหล่า Cloud computing ปรากฏมากมายในอินเตอร์เน็ทอย่าง Office Live, Office Web App, Google Docs และ Saleforces CRM ซึ่งหมัดเดียวของ Cloud Computing ที่ Google กำลังจะปล่อยออกมานั่นคือ Google Chrome OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่รันผ่านเว็บ ผู้เขียนมีตัวอย่าง ระบบปฏิบัตการผ่านแบบแบบแนวคิดนี้ เคยติดตั้งไว้ให้ลองเล่นแล้วใน http://space.daydev.com ซึ่งเจ้า Chrome OS นี้เป้นระบบปฏิบัติการฟรี ข้อมูล Storage ทุกอย่างจะถูกเก็บไว้กลุ่มเมฆ ซึ่งหากเครื่อง notebook ของคุณเสียหาย ก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องของข้อมูลสูยหายเลย

ไม่ว่าจะรายการโทรทัศน์ หรือ ภาพยนต์ ก็ชมกันบนอินเตอร์เน็ทไปเลย

 

ภาพยนต์ออนไลน์ หรือ รายการโทรทัศน์ ย้อนหลังก็สามารถตามติดผ่าน Youtube, Apple TV, Boxee, Hulu หรืออื่นๆ ที่สำคัญทางบริษัทหรือผู้จัดรายการนั้นหยิบรายการโทรทัศน์มาลงบน อินเตอร์เน็ทออนไลน์ควบคู่ไปกับช่องสัญญาณ รวมกับทางเลือกของช่องทีวีใหม่ที่ปรากฏบนเว็บไซต์และทำการโฆษณาได้ดีเดียว ก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นอย่าง http://www.fukduk.tv เป็นต้น และเหล่าค่ายหนังอินดี้ไปจนถึงค่ายหนังใหญ่ที่มีชื่อเสียงนั้นกำลังมีโปรเจ็คในการสร้างภาพยนต์ที่ดูเฉพาะบนอินเตอร์เน็ท ให้ดาวน์โหลด หรือ ชมฟรีซึ่งไม่นานเกินรอเราคงจะได้เห็น แต่ถ้าหากจะดูค่ายหนังอินดี้ก็แนะนำเว็บนี้ Jaman

พฤติกรรมสองขั้วของเหล่า Gamer บน Game Online และ Gamer บน Social Network เปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยน?

 

จะเห็นว่า Game Online ที่เหล่าผู้ที่ขานนามว่าเป็น Gamer นั้นเป็นกลุ่มดั้งเดิมและแนบแน่นมาแต่ไหนแต่ไรในประเทศไทย และยังคงเป็นกลุ่มที่สามารถใช้เป็น สถิติอ้างอิงในการตลาดของค่ายเกมส์หรือผู้ให้บริการเกมส์ กลับกันกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นคือเหล่า Gamer ที่เริ่มเข้าเล่น Game Online บน Social Network อย่าง Facebook โดยเฉพาะเกมจำพวก Farm ทั้งหลายซึ่งตอนนี้จากเกมฆ่าเวลา ก็กลายเป้นเกมที่ได้รับความนิยมและสามารถสร้าง Group หรือ กลุ่มเฉพาะที่เหนียวแน่น พอกับเหล่า Gamer บน Game Online

Game Social Network

ซึ่งในแบบหลังนั้น สามารถชักชวนเหล่า Gamer ใน Gameonline เข้ามาร่วม Social Network และผู้ให้บริการเกมออนไลน์สามารถเพิ่มช่องทางในการติดต่อ สื่อสารกับผู้ใช้บริการเกมของตนผ่าน Social Network ได้เช่นเดียวกันผ่าน Group หรือ Fan Page

ที่สำคัญการซื้อขาย E-commerce บนโลกออนไลน์นั้นผ่านช่องทาง Game บน Social Network ได้ผลดีทีเดียว

แล้วไงต่อ…
ต่อมาคือความเป็นไปได้ของโลกอินเตอร์เน็ทในปี 2010 ที่เราทุกคนจะต้องพบเห็น และ เกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน

เทคโนโลยี AR (Augment Reality)

 

เป็นเทคโนโลยีที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงคือตัวของเรา (Reality) และความเสมือนจริง (Virtual) เข้าด้วยกัน ผ่านวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Webcam, Computer, Pattern, Software และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภาพเสมือนจริงนั้นจะแสดงผลผ่านหน้าจอ คอมพิวเตอร์ มอนิเตอร์ โปรเจคเตอร์ หรืออุปกรณ์แสดงผล โดยภาพเสมือนจริงที่ปรากฏขึ้นจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ทันที อาจมีลักษณะทั้งที่เป็นภาพนิ่ง 3 มิติ ภาพเคลื่อนไหว และรวมถึงภาพเคลื่อนไหวที่มีเสียงประกอบด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบสื่อแต่ละรูปแบบ ตัวอย่างที่เริ่มมีธุรกิจต่างๆมาประยุกต์ใช้คือ

แต่งหน้าออนไลน์

ชิเซโด้ (Shiseido) ได้สร้างหน้าต่างสำหรับเครื่องสำอางค์จำลองซึ่งสำหรับข้้นตอนการใช้บริการก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่นั่งลงตรงหน้าเครื่อง แล้วให้กล้องสแกนใบหน้า (มีเส้นกริด เพื่อกำหนดตำแหน่งการแต่งใบหน้าส่วนต่างๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น) จากนันให้ระบบวิเคราะห์สีผิว องค์ประกอบต่างๆ ตลอดจนรูปใบหน้า เพือแนะนำให้คุณทราบก่อนว่า หากจะแต่งหน้าให้เหมาะควรเลือกแต่งแบบไหน ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างการทำงานผ่าน Flash และ Webcam สามารถเข้าไปดูและทดลองเล่นได้ที่

https://www.daydev.com/programming-language/action-script/76-daydev-lab-flash-motion-detect-interactive.html

หากคุณเล่นแคมเปญโฆษณาสินค้าคุณตัวนึง คุณจ้างให้คนไปติดสัญลักษณ์หรือ แผงเซลไมโคตรชิฟท์ตามตึกสำคัญ แล้วให้ ลูกค้าของคุณเอาโทรศัพท์แสกน ภาพตึกที่ติดแผงนั้นไว้ ก็จะพบ ตัวอักษรหรือ รหัสในการแลกโปรโมชั่นของคุณก็เป็นได้

Augmented Reality

โลกเสมือนจริงและการจำลองผ่านอินเตอร์เน็ทคงไม่ยากไปกว่านี้ ในสมาร์ทโฟนเช่นกันหากเราจินตนาการว่า คุณอยู่เขตหนึ่งของ กทมฯ แล้วต้องการทราบว่าคือที่ไหน ให้คุณถ่ายภาพ ตึกหรือบริเวณนั้น โทรศัพท์จะจำลองประมวลผลเป็นแผนที่ OVI Map พร้อมทั้งบอก สถานที่ใกล้เคียงที่สำคัญให้คุณ ตัวอย่าง Mobile ที่ทำงานคล้ายครึงระบบ AR ได้แก่ Layor (http://www.layor.com) ติดตั้งลงบน iPhone เทรนด์ที่พูดถึง AR นั้นค่อนข้างเยี่ยมแต่ต้องรอดูว่าจะมีคนที่พัฒนาระบบใหม่ๆธุรกิจใหม่ๆให้หรือเปล่า
หมายเหตุ: แคมเปญ QR Code ของโออิชิ ถือว่าเป็นอะไรที่ใกล้เคียง AR เทรนด์

ความเป็นไปได้อีกเรื่องคือฮาร์ดแวร์ที่จะต้องออกมาแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อต้นๆปีทุกคนคงตื่นเต้นกับเจ้า IPAD แน่นอนว่าการศึกษาไทยผ่านอินเตอร์เน็ทจะเป็นผลดีกับเจ้า E-Reader เหล่านี้ สมมุติโรงเรียนออกทุนให้ Kindle กับนักเรียนทุกคนเพื่อดาวน์โหลด PDF หรือ Paper แทนการหอบเอกสารมากมายของเด็กและสิ้นเปลืองกระดาษ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับวงการการศึกษา แต่มองกลับกันแล้ว การมี E-Reader ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปนั้น ผู้เขียนคิดว่าแค่ Laptop ตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว
และเหมารวมไปถึงบริการ Payment หรือการจ่ายเงิน ซึ่งจ่ายผ่านสมาร์ทโฟน หรือ Mobile หลายๆ Platform คาดว่า Phone Banking น่าจะมาแรงทีเดียว

สุดท้าย ปี 2010 คุณคิดว่าตัวคุณเองมีชื่อเสียงพอมั้ย?

facebook
ทำไมผู้เขียนต้องถามเช่นนี้ ก็เพราะว่าถ้าถามว่าคุณมี Twitter หรือ Facebook แล้วมีเหล่าคนที่คอยติดตาม follow คุณมากแค่ไหนก็พึงรู้ไว้ว่า คุณกำลังม่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือประหนึ่งคนดังในสายตาของ Follower เหล่านั้น ปี 2010 คือปีที่ผู้ใช้ Twitter จากคนธรรมดาจะมีความภูมิใจได้กับ quote ของตัวเองประหนึ่ง เซเลป

Asst. Prof. Banyapon Poolsawas

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบเชิงโต้ตอบ และการพัฒนาเกม วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท Daydev Co., Ltd, (เดย์เดฟ จำกัด)

Related Articles

Leave a Reply

Back to top button

Adblock Detected

เราตรวจพบว่าคุณใช้ Adblock บนบราวเซอร์ของคุณ,กรุณาปิดระบบ Adblock ก่อนเข้าอ่าน Content ของเรานะครับ, ถือว่าช่วยเหลือกัน