The Cathedral and the Bazaar ของ Eric S. Raymod (ESR) จุดกำเนิดของปรัชญา Open Source ที่ได้อธิบายแนวคิดเบื้องหลังทั้งหมดของปรากฏการณ์ Open Source ทั้งหมด
หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับผู้ที่สนใจศึกษาแนวคิดของ Open Source และคนที่สนใจด้านเทรนด์ของ IT
ไม่นานมานี้ผมได้กลับมาอ่านบทความ The Cathedral and the Bazaar หลังจากอ่านจบไปเมื่อปี 2009 กลับมาอ่านอีกครั้งก็ได้เข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นในฐานะของเจ้าของธุรกิจ
หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนไว้นานแล้วไม่แน่ใจน่าจะปี 2003-2007 โดย Eric S. Raymond ในบทหลักๆ จะมีการเปรียบเทียบ การสร้างวิหาร (The Cathedral) เหมือนกับ การพัฒนาซอฟท์แวร์ด้วย Open Source โดยระหว่างที่พัฒนา ซอฟท์แวร์ขนาดใหญ่นั้นนักพัฒนาแต่ละที่ล้วนจะพัฒนาส่วนที่ตัวเองพัฒนา เรียกร้องให้คนสนใจ ประกาศให้นักพัฒนาซอฟท์แวร์มากมายจากทั่วทุกมุมโลก และจากที่อื่นๆ ให้เข้ามาทดสอบ ทดลอง ระบบซอฟท์แวร์ของตัวเอง หรือ เรียกร้องความสนใจให้แก่ส่วนที่ตัวเองพัฒนา เหมือนการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Linux เป็นต้น
อย่างเรื่องของระบบปฏิบัติการ Linux ผมเองเมื่อก่อนก็ไม่เชื่อถือมันเท่าไร แต่บทสรุปกลาย ที่น่าสนใจ และเป็นบทที่โดดเด่นนั้น กลับสร้างแง่มุมให้น่าคิดอยู่พอประมาณ จับใจความง่ายๆ ว่า
เมื่อปี 1991 Linux คือผู้ล้มยักษ์ ซึ่งใครจะไปคิดว่า Linux ที่จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการระดับโลก จะก่อตัวขึ้นมาจากการแฮ็กเล่นๆ ในแวดวงกลุ่มเพื่อนๆ ในเวลาว่าง ของนักพัฒนาซอฟท์แวร์ และแฮ็คเกอร์นับพันจากทั่วโลกที่เชื่อมโยงมาร่วมพัฒนา กันด้วยเส้นใยเครือข่ายบางๆ ที่เราเรียกว่าอินเทอร์เน็ต
ความเห็น เสียงสะท้อน คำแนะนำ การอธิบาย คำร้องขอ ต่างปรากฏวุ่นวายใน SVN เหมือนกับว่าทุกคนอยู่ใน ตลาดสด (The Barzaar)
- ซึ่งถามว่ามันวุ่นวายมั้ย? ก็ต้องตอบว่าวุ่นวายครับ
- แต่มันประสบความสำเร็จมั้ย? ก็ต้องตอบว่าประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด
สิ่งที่ปรากฏชัดที่สุดที่ทำให้คนสายไอทีต้องเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ จากตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดอย่างระบบปฏิบัติการ Linux ก็ได้ทำให้แวดวงไอที อย่างองค์กรขนาดยักษ์ใหญ่ ต้องหันมาสนับสนุนซอฟท์แวร์ Open Source ไม่ว่าจะเป็น NetScape(ในสมัยนั้น), IBM ,SUN, Novel และอีกหลายๆองค์กร หรือแม้การจัดตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ Open Source ขึ้นมาอย่างจริงๆ จังๆ Red Hat, Mandriva และ Trotech เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ Open Source ที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างก็ได้มีการเริ่มจำนวนมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ที่ชัดเจนคือ FireFox, Open Office เป็นต้น
ตัวอย่างเหล่านี้ เป็นการการันตีว่าแนวคิดซอฟท์แวร์ OpenSource สามารถนำมาพัฒนาเป็นสิ่งใหญ่ นวัตกรรมใหม่นั้นเป็นไปได้ และยังเป็นการยืนยันแนวโน้มใหม่ เทรนด์ใหม่ของโลกใบนี้อีกด้วย
และสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จาก หนังสือเล่มนี้ก็คือ “ความจริง” ต่อไปนี้
- ซอฟต์แวร์ดีๆ เริ่มมาจากการสนองความต้องการส่วนตัวของผู้พัฒนา ตามแนวคิดปรัชญาที่ว่า ‘ความจำเป็น คือบ่อเกิดของการคิดค้น’
- โปรแกรมเมอร์ที่ดีย่อมรู้ว่าจะเขียนอะไร แต่โปรแกรมเมอร์ที่ยอดเยี่ยมจะรู้ว่าอะไรต้องเขียนใหม่ และอะไรใช้ของเก่าได้
- เตรียมพร้อมที่จะทิ้งสิ่งเดิมไป คุณได้ทิ้งแน่นอน
- ถ้าคุณมีทัศนคติที่เหมาะสม ปัญหาที่น่าสนใจจะมาหาคุณเอง
- เมื่อคุณหมดความสนใจในโปรแกรมใดแล้ว หน้าที่สุดท้ายของคุณคือ ส่งมันต่อให้กับผู้สืบทอดที่มีความสามารถ
- การปฏิบัติต่อผู้ใช้เยี่ยงผู้ร่วมงาน เป็นหนทางที่สะดวกที่สุด ที่จะนำไปสู่การพัฒนาโค้ดอย่างรวดเร็ว และการแก้ Bug อย่างได้ผล
- ทฤษฏี ALPHA, BETA เวอร์ชัน ออกเนิ่นๆ ออกถี่ๆ และยินดีรับฟังแก้ไข
- ถ้ามีผู้ทดสอบและผู้พัฒนามากพอ ปัญหาแทบทุกอย่างจะได้รับการรายงานโดยเร็ว และใครสักคนจะมองเห็นวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสบาย
- โครงสร้างข้อมูลที่ฉลาดกับโค้ดที่เขียนแบบปัญญาอ่อน กลับทำงานได้ดี
- การแก้ปัญหาที่น่าสนใจ เริ่มจากการค้นหาปัญหาที่คุณสนใจ
อ่านได้ที่นี่: https://wiki.cc.gatech.edu/scqualifier/images/8/84/Raymond-Cathedral.pdf
แปลไทยมีคนแปลไว้แล้ว: http://linux.thai.net/~thep/catb/cathedral-bazaar/
